อาการ ของคน “เป็นบ้า” เพื่อนคุณสักคน.. อาจเป็นอยู่
อาการทางจิตเหล่านี้กัน ที่เชื่อว่าพอหลายคนอ่านแล้วอาจจะค้นพบว่าตัวเองก็มีอาการทางจิตก็เป็นได้
ความแปลกประหลาดพิสดารในโลกนี้ยังมีอีกมากที่เราอาจไม่เคยรับรู้มาก่อน แม้แต่เรื่องของ “จิต” ของมนุษย์เราก็ยังมีความซับซ้อนและในบางคนก็มีความ “พิเศษ” ที่ต่างไปจากคนอื่น ทว่า…ความพิเศษของคนบางคนนั้นก็อาจแปลเป็นความผิดปกติหรือเป็น “อาการทางจิต” ได้…..เราจะพาไปรู้จักอาการทางจิตที่มาจากความผิดปกติต่างๆ จนเป็นเหตุให้เกิดอาการแปลกๆ ทั้ง 10 อาการเหล่านี้
1. Synaesthesia หรือ ซินเนสทีเซีย
คืออาการที่ประสาทสัมผัสตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไปเกิดการรับรู้พร้อมกันนั่นเอง บุคคลที่มีอาการแบบนี้จะมีอาการแตกต่างจากคนทั่วไปคือ เช่น บางคนมองตัวเลข (หรือตัวหนังสือ) เห็นเป็นสีต่างๆ เช่น เห็นตัวเลข 1 เป็นสีชมพู และจะเห็นแบบนี้ไปตลอดชั่วชีวิต (โดยสีของตัวเลขขึ้นอยู่กับคนแต่ละคน บางคนอาจเห็นเลข 1 เป็นสีอื่นก็ได้)
ขณะที่บางคนฟังเสียงดนตรีจะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาสัมผัสผิวหนัง ส่วนอีกคนลิ้นชิมรสชาติอาหาร กลับเห็นรูปร่างตามมาด้วย หรืออีกคนสัมผัสรสชาติต่างๆ เช่น เปรี้ยว เค็ม หวาน ได้จากตัวอักษรหรือตัวหนังสือ สาเหตุของอาการดังกล่าวนี้คาดว่าเกิดจากพันธุกรรม ที่โครงสร้างสมองผิดปกติมีการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทในสมองที่มีมากเกินพอดี ส่งผลให้การรับรู้ของประสาทสัมผัสต่าง ๆ ปะปนกัน
2. Oniomania หรือ “โรคบ้าช้อปปิ้ง”
เป็นอาการทางจิตอย่างหนึ่งที่ซื้อข้าวของแบบไม่บันยะบันยัง และมักซื้อของที่ตนไม่ต้องการ บางครั้งเหมือนขาดสติ ซื้อไปโดยไม่รู้ตัว บ่อยครั้งแสดงอาการเหมือนคนเสพยา เช่นถ้าไม่ได้ไปห้างจะมีอาการทุรนทุราย เครียด หงุดหงิด สาเหตุของโรคนี้มาจากกลไกธรรมชาติของมนุษย์ที่สร้างขึ้นมาป้องกัน โรคซึมเศร้า ซึ่งตอบสนองอาการนี้โดยการโหยหาของใหม่ๆ แค่เพียงได้เห็นของใหม่ ๆ ในห้าง หรือเวลามีโฆษณาของใหม่ ๆ ทางทีวี ก็จะโหยหาและอยากช้อปเพื่อมาบรรเทาอาการซึมเศร้า
แต่พอเอาของกลับมาบ้านก็จะมีความรู้สึกผิดขึ้นมา จนเกิดเสียดายจึงยิ่งไปกระตุ้นความซึมเศร้า ทำให้เกิดอาการวนไปวนมาไม่จบสิ้น ส่วนวิธีการป้องกันโรคนี้คือ ต้องพยายามอยู่ให้ไกลจากแหล่งช้อปปิ้ง ไม่ควรพกเงิน ไม่พกบัตรเครดิต หาอะไรอย่างอื่นทำ เช่น ออกกำลังกาย ทำอาหาร ทำงานแฮนด์เมด เป็นต้น
3. Trichotillomania “การถอนผมตัวเอง”
เป็นภาวะผิดปกติทางจิต และเป็นนิสัยหรือพฤติกรรมที่ย้ำคิดย้ำทำ โดยการถอนผมบนศีรษะหรือขนตามตัว(ขนตา, ขนจมูก, ขนหน้าอก, ขนคิ้ว) เล่นโดยที่ไม่รู้ตัว ส่วนมากมักถอนขนในขณะทำกิจกรรมบางอย่างที่เพลินๆ เช่น ขณะนั่งอ่านหนังสือ
อาการนี้พบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อายุที่พบโดยเฉลี่ยประมาณ 9 -13 ปี โดยสาเหตุเกิดจากสภาวะซึมเศร้าหรือความเครียดสะสม เมื่อได้ถอนผมหรือขนแล้วจะหายเครียด จนเกิดเป็นความเคยชิน โดยโรคนี้ถือว่าเป็นปัญหาทางจิต ควรปรึกษาจิตแพทย์โดยด่วน
4. Piblokto
เป็นปรากฏการณ์ที่พบในชาวเอสกิโมในแถบขั้วโลกที่มีอากาศหนาวเย็น โดยมักพบในหญิงชาวเอสกิโม มีอาการซึมเศร้า ตัวสั่น วิตกกังวล ร้องไห้ แผดร้องเหมือนสัตว์ป่า แล้วออกวิ่งไปในหิมะโดยไม่รู้สึกว่าหนาว จากนั้นกระโดดลงน้ำที่เย็นจัด และมักทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายผู้อื่น สับสน จำอะไรไม่ได้
5. Hybristophilia
เป็นอาการทางจิตของคนที่หลงรักฆาตกรหรือคลั่งไคล้อาชญากรโรคจิต เป็นความคลั่งไคล้หลงใหลแบบอยากจะแต่งงานด้วย ปรากฏการณ์นี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Bonnie Clyde Syndrome โดยชื่อนี้มาจากเรื่องราวของ “บอนนี ปาร์คเกอร์ & ไคลด์ แบร์โรว์” ซึ่งบอนนี่คือ หญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งที่เกิดไปหลงรักไคลด์ อาชญกรตัวกลั่น จนบอนนี่ถึงกับทิ้งครอบครัวมาอยู่กับไคลด์เลยทีเดียว
6. Depersonalization บุคลิกวิปลาส หรือ “คนสองบุคลิกภาพ”
เป็นอาการทางประสาทประเภทหนึ่ง ที่เกิดตัวตนและบุคลิกภาพขึ้นในจิตใจของบุคคล ทั้งที่บุคคลนั้นมีตัวตนและบุคลิกภาพของตัวเองอยู่แล้ว โดยสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่นั้นเป็นกระบวนการรู้จำซึ่งทำหน้าที่เป็นอิสระและแปลกแยกจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว บุคคลผู้นั้นจึงเสมือนกำลังนั่งมองการกระทำของตน แต่ไม่สามารถควบคุมการกระทำนั้นได้
เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่การกระทำของตนแน่นอน แต่เป็นของใครก็ไม่รู้ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก และจำไม่ได้ เป็นต้น สาเหตุอาจมาจากหลายอย่างผสมกัน เช่น ความเครียด โรคย้ำคิดย้ำทำ วิตกกังวล ยาเสพย์ติดประเภทประสาทหลอน สภาวะนี้สามารถรักษาให้หายได้ อาจเป็นชั่วคราว หรือบางรายอาจเรื้อรังไปจนตาย
7. Nymphomania นิมโฟมาเนียคือ โรคขาดผู้ชายไม่ได้
ผู้หญิงที่มีอาการนี้จะกระตุ้นให้พวกเธอมีความต้องการทางเพศสูงจนผิดปกติ ไม่สามารถควบคุมได้ จนเรียกได้ว่าคลั่งไคล้หรือบ้าคลั่ง แม้ว่าจะได้รับการตอบสนองทางเพศหลายครั้งแล้วก็ยังมีความต้องการอีก จึงมักจะเปลี่ยนคู่นอนบ่อยจนเข้าขั้น “สำส่อนทางเพศ” รวมไปถึงการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองหลายครั้งต่อวันด้วย
ส่วนสาเหตุมาจากความผิดปกติของสมอง และมาจากการเสพย์สารเสพติดมากเกินไป โรคนี้ทำให้เกิดปัญหาชีวิตสมรสและครอบครัวแตกแยกในที่สุด ปี 2013 ผู้กำกับดัง ลาร์ส ฟอน ทริเยร์ (Lars Von Trier) เคยหยิบเอาอาการของโรคนิมโฟมาเนียมาสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อเดียวกันนี้ด้วย
8. Jumping Frenchman of Maine Disorder
เป็นโรคที่นายแพทย์จอร์จ มิลเลอร์ เบียร์ด ได้นิยามเป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1878 เป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่งที่หายาก และไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากความผิดปกติที่ระบบประสาทหรือทางจิตใจ โดยผู้ป่วยที่เขาพบนั้นเป็นชายชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศส ผู้ป่วยจะมีอาการตอบสนองทันทีเมื่อถูกกระตุ้นจนไม่สามารถควบคุมได้
ตัวอย่างเช่น หากตะโกนเสียงดังๆ ออกคำสั่งให้ผู้ป่วยทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้ป่วยก็จะทำตามนั้น เช่น ตะโกนบอกให้โยนวัตถุหนึ่งในมือของเขา เขาก็จะโยนทิ้งโดยไม่ลังเล นอกจากนี้บ่อยครั้งพบว่า ผู้ป่วยมักพูดประโยคแปลกๆ ประโยคที่เป็นภาษาต่างประเทศ และจะพูดประโยคนั้นๆ ซ้ำไปซ้ำมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
ที่มา : bkkvariety.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น