จับ“แม่วัยรุ่น” ฆ่าลูกชายแรกเกิด ใส่ถุงพลาสติกโยนทิ้งจากคอนโดสูง ตร.สอบปากคำไม่โศกเศร้าเสียใจ
จากกรณีช่วงเย็นวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งพบเด็กทารกแรกเกิดเพศชาย ถูกคนใจร้ายจับยัดใส่ถุงพลาสติกแล้วโยนลงมาจากห้องพักภายในคอนโดมิเนียมชื่อ “เซ็นทริค ซี พัทยา” ถนนพัทยาสาย 2 ย่านพัทยากลาง
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00น. วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนร่วมจับกุม น.ส.เนตรชนก หรือบีม นกยูงทอง อายุ 20 ปี มารดาของเด็กทารกที่เสียชีวิต หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดและได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีว่า น.ส.เนตรชนก กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งจากการตรวจค้นห้องพักบนชั้นที่ 17 พบหลักฐานหลายอย่าง ทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าแตะเปื้อนเลือด ถูกทิ้งในถังขยะภายในห้องพัก นอกจากนี้ยังพบก้อนเนื้อลักษณะคล้ายรกเด็กอีก 1 ชิ้นตกอยู่ในพื้นห้องน้ำ และคราบเลือดเปรอะเปื้อนอยู่เป็นจำนวนมากติดอยู่ตามผนังห้องน้ำและบริเวณหน้าต่างริมระเบียง
จากการสอบสวน น.ส.เนตรชนก ให้การว่าตนได้คบหาเป็นแฟนกับนายคิม (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 40 ปี ชาวเกาหลีใต้ มาเกือบ 2 ปีแล้ว ซึ่งปกตินายคิม มีภรรยาชาวเกาหลีใต้อยู่แล้ว และทำงานเป็นวิศวกรอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา โดยจะเดินทางมาหาตนเป็นครั้งเป็นคราว ต่อมาตนเกิดตั้งท้องและปัจจุบันอายุครรภ์ประมาณ 8 เดือนกว่าแล้ว แต่พอนายคิม ทราบว่าตนท้อง จึงพยายามตีตัวออกห่าง ล่าสุดเจ้าตัวได้เอ่ยปากขอเลิกและจะกลับไปอยู่กับภรรยาที่ประเทศเกาหลีใต้ ทำให้ตนเสียใจเป็นอย่างมาก กระทั่งเย็นวันเกิดเหตุ (4 พ.ย.) ขณะตนเข้าห้องน้ำ จู่ๆ เด็กเกิดคลอดออกมากะทันหันในสภาพสมบูรณ์แข็งแรง แต่ด้วยความที่น้อยใจแฟนหนุ่มใหญ่แดนกิมจิ ประกอบกับไม่มีเงินจะส่งเสียเลี้ยงดูลูกให้เติบใหญ่ จึงตัดสินใจจับเด็กยัดใส่ถุงพลาสติกแล้วโยนลงมาจากห้องพักดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า หลังจับกุม น.ส.เนตรชนก มีอาการตกเลือด จึงต้องส่งตัวไปรักษาที่ รพ.บางละมุง แต่ก็ได้อายัดตัวและส่งตำรวจไปเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจากการสังเกตในขณะสอบปากคำพบว่า น.ส.เนตรชนก ไม่ได้มีความเศร้าโศกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแม้แต่น้อย จึงถือว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก เพราะฆ่าได้แม้กระทั่งลูกตัวเองและเป็นการฆ่าทั้งๆ ที่เด็กยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม น.ส.เนตรชนก อาการดีขึ้นแล้วจะได้นำตัวแม่ใจยักษ์รายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา matichon
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น