น้องก็คงไม่ตาย!! “อ.กวดวิชา” ลั่น! เหตุที่ “น้องเมย” เสียชีวิต เป็นเพราะระบบนี้ล้มเหลว?!!

น้องก็คงไม่ตาย!! “อ.กวดวิชา” ลั่น! เหตุที่ “น้องเมย” เสียชีวิต เป็นเพราะระบบนี้ล้มเหลว?!!

หลายคนนั้นต่างก็กำลังตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ “น้องเมย” หรือ นตท.ภัคพงค์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งทางกองทัพก็ได้มีการออกแถลงการณ์ และทำเอกสารชี้แจงภาพจากล้องวงจรปิดอธิบายลำดับเหตุการณ์ น้องเมย ก่อนล้มป่วย ถึงนาทีหามส่งโรงพยาบาล

มื่อย้อนไปวันที่ 22 ต.ค. 60 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า พจน ทองดี ผู้เป็นอาจารย์โรงเรียนกวดวิชาที่ได้สอน นตท.ภัคพงค์ ได้ออกกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นถึงเหตุการณ์ที่น้องเมยได้เสียชีวิตว่าเป็นเพราะระบบการงานในโรงเรียนเตรียมทหารล้มเหลว

นอกจากนั้นยังได้ระบุว่า “***ข้อความนี้อาจจะช่วยให้อนาคต ลูกหลานของท่าน ที่กำลังจะเข้าไปเรียนในโรงเรียนเตรียมทหาร หรือครอบครัวของท่านไม่เจอกับเหตุการณ์อันไม่ควรเกิดขึ้นนี้*** โปรดอ่าน

***ลำพังเสียงคนคนเดียวต่อให้ตะโกนจนคอแตกก็ไม่มีใครสนใจแต่ถ้าช่วยกันออกเสียงหลายๆคนก็อาจจะมีคนได้ยินและได้รับรู้ความจริงได้***

ผม นาย พจน ทองดี ในถานะที่น้อง เมย ได้เคยอยู่ในการดูแล ของผม และ คณะอาจารย์ใน โรงเรียนกวดวิชาหุบเขามังกรหลับ รวมระยะเวลาที่อยู่กันมา 2 ปีเศษผมจึงขอเป็นตัวแทน

ในการกล่าวถึงนตท. ภัคพงค์ ตัญกาญจน์ ถึงเรื่องราวที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ที่จะเกิดขึ้นกับครอบครัวตัญกาญจน์ ในครั้งนี้

ด้วยเหตุว่าหลังจากมีข่าวการเสียชีวิตอย่างกระทันหันของน้องเมย ทราบว่ามีข่าวออกมาหลายด้านว่า เมยป่วยบ้าง

เมย ถูกพ่อแม่บังคับให้เป็น นตท.บ้าง ถูกพ่อแม่กดดันบ้าง

เป็นข่าวที่โยนความผิดให้กับครอบครัวตัญกาญจ์ ซึ่งส่วนนี้ผมรับไม่ได้ จึงขอกล่าวความจริง และความรุ้สึกทั้งหมด ภายใต้โพสนี้

ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่หุบเขามังกรหลับ รวม 2 ปีเศษ ครูทุกคนทราบดีว่า น้องเมย มีความตั้งใจแน่วแน่อย่างยิ่งที่จะสอบเป็นนักเรียนเตรียมทหารให้ได้ และมีอุดมการณ์ในการที่จะทำงานรับใช้ประเทศชาติมากกว่าเด็กในวัยเดียวกันทั่วไป ข้อนี้จึงเป็นข้อยืนยันได้ว่า เมยไม่ได้เคยถูกบังคับจาก พ่อ แม่ หรือครอบครัว ให้เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารแต่อย่างใด

**แล้วเหตุที่ เมย เสียชีวิต มาจากสาเหตุใด ?**

ผมจะพูดอย่างไม่ลังแลแม้แต่น้อยว่า ก็เพราะระบบงานในโรงเรียนเตรียมทหาร มันล้มเหลว มันขาดการเอาใจใส่จากผูบังคับบัญชา ปล่อยปะละเลย ให้ นร.ปกครองรุ่นพี่ ซึ่งมีวุฒิภาวะเที่ยบเท่า นักเรียน ม.5- ม.6 ปกครองกัยเองโดยไม่คำนึงถึงเหตุร้ายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น นั้นส่วนหนึ่ง และวัฒนะธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างผิดๆ ในส่วนของการสั่งโทษ(การแดก) กันจนเกินสมควร จนมีการบาทเจ็บ และสืบเนื่องมาจนถึงการที่มีผู้เสียชีวิต (มี นตท.เสียชีวิตเกือบทุกปีในระยะ3-4ปีนี้)

****ผมจึงมีข้อสงสัยว่า นี้นักเรียนที่เข้าไปเรียนโดยมีความตั้งใจที่จะจบมาเพื่อทำงานรับใช้ประเทศชาตและแทนคุณแผ่นดิน กลายเป็นว่าเข้าไปเพื่อรับใช้ความบ่าครั่งในใจของรุ่นพี่บางคน จนทำให้หมดโอกาศที่จะทำตามความตั้งใจที่ตั้งไว้แต่แรก

***หรืออาจจะมีข้อโต้แย้งว่าเป็นนักเรียนทหาร เป็นนักรบต้องฝึกหนัก ข้อนี้ผมเห็นด้วย แต่พวกท่านลืมไปหรือไม่ว่า น้องๆที่เข้าไปนั้น เป็นเพียง นักเรียน ที่อายุเพียง 16-18ปีเท่านั้น

สมควรแล้วหรือไม่? ที่จะทำการฝึกหรือ (แดก) กันจนต้องบาทเจ็บ และเสียชีวิต

***ทั้งหมดนี้ผมขอเป็นเสียงเล็กๆในการแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ผู้บริหารโรงเรียนได้ลงมาดูแล นักเรียนที่เข้าไปเรียน

ในโรงเรียนบ้างว่า มีความเป็นอยู่กันอย่างไร โดยไม่ใช้คำว่า

“สมัยก่อน เจอมาหนักกว่านี้” ซึ่งถือว่าเป็นคำล่าวที่เป็นข้ออ้างในการปัดความรับผิดชอบอย่างมาก ***ถ้า น้อง นตท.ภัคพงศ์ ตัญกาจญ์ ไม่ถูกทำโทษ(แดก)จนเกินสมควรเหตุการณ์แบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ่น***

ขอบคุณข้อมูลจาก FB พจน ทองดี