สดๆร้อนๆ! ล่าสุด “นายกตู่” มีคำสั่ง ขึ้นภาษีประชาชนจาก 7% เป็น 8% แค่เสียสละอีกคนละ 1% เพื่อรายได้รัฐมากขึ้น แค่นี้พวกคุณทำได้ไหม!

สดๆร้อนๆ! ล่าสุด “นายกตู่” มีคำสั่ง ขึ้นภาษีประชาชนจาก 7% เป็น 8% แค่เสียสละอีกคนละ 1% เพื่อรายได้รัฐมากขึ้น แค่นี้พวกคุณทำได้ไหม!

นายกรัฐมนตรี ขอประชาชนเสียสละจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 8% ทำให้รายได้รัฐเพิ่มแสนล้านบาท พัฒนาประเทศต่อ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ระบุถึงงบประมาณของประเทศว่า

ประเทศไทยอยู่ด้วยระบบทุนนิยมเสรี ซึ่งเป็นรายได้ของประเทศ และมีภาษีจากข้าราชการ ที่มีการเสียภาษีเต็มจำนวนทั้งหมด

ขณะที่ประชาชนจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ vat ซึ่งยังอยู่ที่ร้อยละ 7 มาหลายปี แต่หากเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1

(เป็นร้อยละ 8) จะทำให้รายได้ประเทศเพิ่มขึ้นกว่าแสนล้านบาท ทำให้งบประมาณของรัฐเพิ่มขึ้น

-

เพื่อเอางบประมาณดังกล่าวไปทำในสิ่งที่ประชาชนเรียกร้อง ขณะเดียวกันราคาสินค้าไม่ควรปรับเพิ่มขึ้นมากนัก

ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ตูดขาด แต่เดินด้วยความระมัดระวังและมีภูมิคุ้มกันอยู่ตลอด สามารถบริหารจัดการได้

เงินกู้ต่างๆ อยู่ในกรอบทั้งหมด และหนี้สาธารณะลดลง นายกรัฐมนตรี เผยว่า สิ่งที่กำลังลงทุนจะเกิดมูลค่า

และรายได้ในปีหน้าและปีต่อไป ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ หลายอย่างรัฐบาลไม่สามารถทำเร็วมากได้

เพราะยังติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย ดังนั้นขออย่าทำอะไรตามใจมากนัก

การแก้ปัญหาเศรษฐกิจซึ่งถือเป็นจุดอ่อนไหวของรัฐบาล คสช.มาตลอด และถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบางฝ่ายว่า

รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องรายได้ จนอาจจำเป็นต้องจัดเก็บภาษีต่างๆ เพิ่มขึ้นล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายกฯและหัวหน้าคสช.ออกมาโยนหินถามทาง ขอให้คนไทยร่วมกันเสียสละ โดยจะขอขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บอยู่

ร้อยละ 7 อีกร้อยละ 1 ระบุหากไม่ทำประเทศต้องประสบภาวะล้มละลาย

แม้ว่าวันนี้รัฐบาลต้องใช้เงินเพื่อการลงทุนค่อนข้างมาก แต่ต้องไปดูว่าโครงการเหล่านี้ จะสร้างมูลค่าและรายได้ในปีหน้าและปีต่อไป

หรือในอีก 20 ปีข้างหน้าอีกมาก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหลายๆโครงการรัฐบาลไม่สามารถทำเร็วมากได้ เพราะยังติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย

ดังนั้น จึงขอทุกฝ่ายอย่าทำอะไรตามใจตัวเองมากนัก ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณี

ที่พล.อ.ประยุทธ์มีแนวคิดขึ้นภาษีแวตอีก 1% โดยระบุว่า แม้ว่าขณะนี้เศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้น

แต่กระทรววงการคลังยังไม่มีแนวคิดที่จะปรับขึ้นภาษีแวตจาก 7% เป็น 8% เพราะการขึ้นภาษีแวตต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของเศรษฐกิจ

และไม่ได้คำนึงถึงการเพิ่มรายได้เพิ่มเพียงอย่างเดียวต้องมองถึงความเหมาะสมของเศรษฐกิจว่า หากขึ้นแล้ว จะมีผลต่อการเติบโตทาง

เศรษฐกิจหรือไม่ด้วย หากรัฐบาลปรับเพิ่มภาษีแวตจาก 7% เป็น 8%

จะทำให้ประชาชนที่ซื้อสินค้าและบริการต่างๆมีภาระภาษีเพิ่มขึ้น เช่น หากต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนละ 1,000 บาท

ถ้าคิดภาษีแวตที่ 7% ประชาชนจะเสียภาษี 70 บาท แต่ถ้าเพิ่มภาษีแวตเป็น 8% ก็ต้องจ่ายภาษีเพิ่มเป็น 80 บาท

เป็นต้นพลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูด เพียงต้องการชี้ให้เห็นว่า

เมื่อประชาชนเสนอข้อเรียกร้องขอความช่วยเหลือมายังรัฐบาลหลายเรื่อง

แต่รายได้หลักของรัฐบาลมาจากการเก็บภาษีแต่เพียงอย่างเดียว แล้วจะนำเงินที่ไหนไปจ่าย ฉะนั้นหากประชาชน

ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ หรือได้รับเงินจากภาครัฐประชาชนก็ต้องรู้จักเสียสละด้วย โดยได้ยกตัวอย่างว่า

หากประชาชนจ่ายภาษี VAT เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1 ก็จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 100,000 ล้านบาท

-

ขอบคุณที่มา:kaiwhan

ความคิดเห็น